ตัวล็อค TSA

TSA LOCK

TSA ย่อมาจาก Transportation Security Administration ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทาง ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นมาตรฐานสากลที่มีไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของประเทศนั้นๆ สัญลักษณ์ TSA จะติดไว้บริเวณกุญแจล็อกกระเป๋าเดินทาง (จุดสังเกต คือจะมีสัญลักษณ์สีแดงทรงข้าวหลามตัด และเขียนคำว่า TSA) สำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นอกจากคัดกรองบุคคล ก็ยังมีหน้าที่คัดกรองสิ่งของข้ามแดน และ สัมภาระที่นำเข้าประเทศด้วย เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจและยึดสิ่งของต้องห้ามเฉพาะ เช่น ยาเสพติด อาวุธ
สิ่งของต้องห้าม เป็นต้น

เมื่อตรวจสอบเรียบร้อย หากไม่มีสิ่งต้องห้าม ก็จะส่งคืนทรัพย์สินอื่นๆ ภายในกระเป๋าของเราให้อยู่ในสภาพเดิม เนื่องจากบางครั้งเราเดินทางไปยังประเทศที่เข้มงวด อาจเผลอทำผิดกฎโดยไม่ได้เจตนา เหตุเพราะไม่ทราบกฎหรือข้อห้าม บางประเทศมีกฏเข้มงวดมากกับการนำสิ่งของต่างๆเข้ามาในประเทศ เช่น พืช ผัก ผลไม้ ดิน อาหารแห้ง เป็นต้น

ทำไมกระเป๋าเดินทางต้องมี TSA Lock

การเดินทางไปต่างประเทศในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือประเทศที่มีการใช้มาตรฐาน TSA Lock อยู่ บางครั้ง เราอาจโดนตรวจสอบสัมภาระในกระเป๋า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเปิดกระเป๋าโดยใช้กุญแจเฉพาะ ที่มีมาตรฐาน TSA  หากกระเป๋าของเราไม่มีมาตรฐานที่ว่ามา เจ้าหน้าที่จะใช้ทุกวิธีที่จะเปิดกระเป๋า เช่น การตัดกุญแจ ทำลายตัวล๊อก การงัดกระเป๋า ซึ่งมีผลทำให้กระเป๋าของคุณเกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นกระเป๋าที่มี TSA Lock ก็จะปลอดภัยหายห่วง ต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

กระเป๋าจะปลอดภัยหรือไม่?

เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับสิทธิ์เท่านั้น จึงจะสามารถเปิดกระเป๋าของคุณได้ เช่น เจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)  จะเปิดได้ในกรณีที่สแกนแล้วภายในกระเป๋ามีวัตถุต้องสงสัย เข้าข่ายลักลอบขนยาเสพติด หรืออุปกรณ์อันตรายเท่านั้น  ซึ่งกระเป๋าจะอยู่อย่างปลอดภัยหากไม่มีสิ่งต้องสงสัยดังกล่าว และไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายต่อของในกระเป๋า  ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกระเป๋าที่มี TSA Lock ถึงมีแต่ระบบล็อกแต่ไม่มีกุญแจมาให้

ระบบนี้ใช้กันที่ไหนบ้าง

จากข้อมูล ตอนนี้ระบบ TSA Lock ถูกนำมาใช้ในประมาณ 600 สนามบิน จาก 13 ประเทศ ได้แก่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฟินแลนด์ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์อิสราเอล ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต